Lucy หรือ Australopithecus afarensis  มีความสูงประมาณ 107-152 cm เป็นโครงกระดูกมนุษย์ดึกดำบรรพ์ ถูกขุดค้นพบที่ประเทศเอธิโอเปีย และการค้นพบนี้ก็นำความตื่นเต้นมาให้กับเหล่านักบรรพชีวินวิทยามาก เนื่องจากชิ้นส่วนโครงกระดูกของเธอยังมีอยู่ครบมากกว่าครึ่งร่าง ถือว่าสมบูรณ์มากที่สุดเมื่อเทียบกับโครงอื่น ๆ ที่เคยขุดค้นพบมา นั่นทำนักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาเรื่องราววิวัฒนาการของมนุษย์จากโครงกระดูกของเธอได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เธอถูกตั้งชื่อเล่นว่า "ลูซี่" ตามเพลงฮิต "Lucy in the Sky with Diamonds"  ของวง The Beatles ที่เหล่านักบรรพชีวิตวิทยาชอบร้องและฟังขณะทำงาน  https://hilight.kapook.com/view/129538


                                         

        ลักษณะเด่นที่สังเกตได้จากโครงกระดูกของลูซี่ คือลักษณะของหัวเข่าและส่วนโค้งของกระดูกสันหลัง ที่บ่งบอกว่าลูซี่สามารถเดินตัวตรงได้แทบไม่ต่างจากมนุษย์ในปัจจุบัน เธอมีแขนยาวเช่นเดียวกับขา แต่ไม่ยาวเท่ากับของชิมแปนซี มีหัวกะโหลกเล็ก แต่ลักษณะไม่เหมือนของลิงไร้หาง ส่วนลักษณะใบหน้าเธอนั้น นักวิทยาศาสตร์คาดว่าน่าจะดูละม้ายคล้ายกับกอริลลา ด้วยส่วนสูงราว 1.1 เมตร และน้ำหนักตัว 27 กิโลกรัม ลูซี่ได้เติบโตเต็มที่แล้วตามลักษณะสปีชีส์ของเธอ และสภาพของฟันบ่งบอกว่าเธอน่าจะกำลังอยู่ในวัยสาว
     จากลักษณะกรามและทรงของซี่โครงบ่งบอกว่า ลูซี่น่าจะกินพืชเป็นอาหารหลัก แถมยังมีผลการศึกษาใหม่ที่ออกมาเมื่อปี 2553 บ่งบอกว่า บางทีลูซี่น่าจะเป็นบรรพบุรุษมนุษย์สปีชีส์แรกที่เริ่มต้นการปรุงอาหาร การหั่นตัดเป็นชิ้น ๆ และเริ่มกินเนื้ออีกด้วย  https://hilight.kapook.com/view/129538

          โดนัลด์ โจแฮนสัน และ ทอม เกรย์ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตท ค้นพบลูซี่ครั้งแรกในปี 1974 ในเมือง Afar ประเทศเอธิโอเปีย นับตั้งแต่นั้นมาก็มีคำถามมากมายว่ามนุษย์โบราณใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้ด้วยหรือไม่

"เป็นไปได้ว่าฟอสซิลที่เป็นที่ถกเถียงเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์กับการอยู่บนต้นไม้รายนี้จะเสียชีวิตจากการบาดเจ็บเนื่องจากตกต้นไม้" จอห์น เคปเพลแมน นักโบราณคดีและธรณีวิทยา จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน เผย

         เคปเพลแมน เริ่มศึกษาลูซี่ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2008 โดยได้นำเข้าเครื่อง High-Resolution X-ray Computed Tomography ที่เป็นเครื่องมือสำหรับการสแกนที่สามารถส่องผ่านสสารที่แข็งระดับหินได้ โดยให้ความละเอียดสูงระดับเครื่อง CT Scan ที่ใช้ในทางการแพทย์ เคปเพลแมนได้สแกนดูโครงกระดูกอย่างละเอียดจนได้ภาพตัดขวาง CT มามากกว่า 35,000 ภาพ  โดยในช่วงที่สแกนนั้น เคปเพลแมนได้สังเกตพบสิ่งผิดปกติอย่างหนึ่งคือ ที่ปลายของกระดูกต้นแขนด้านขวานั้นมีรอยแตกในลักษณะที่ไม่เหมือนฟอสซิลทั่วไป เป็นรอยแตกของกระดูกในลักษณะที่คม และยังพบแร่เงินอยู่ด้วย โดย เคปเพลแมน ได้ปรึกษากับ ดร.สตีเฟน เพียร์ซ ศัลยแพทย์กระดูกที่คลินิกกระดูกและข้อต่อออสติน ดร.เพียร์ซ ยืนยันว่าการบาดเจ็บนั้นสอดคล้องกับการมีรอยแตกสี่จุดที่กระดูกต้นแขนและน่าจะเกิดจากการตกลงมาจากที่ที่สูงพอสมควร และผู้เสียชีวิตน่าจะกำลังใช้แขนเพื่อลดแรงกระแทกในขณะที่ตกลงสู่พื้นดิน แต่ยังมีข้อสงสัยว่าแล้วลูซี่ปีนขึ้นไปสูงมากพอจนกระทั่งหล่นลงสู่พื้นความความเร็วที่มากจนเกิดแรงกระแทกจนเสียชีวิตได้อย่างไร เคปเพลแมน ก็แย้งว่าลูซี่นั้นตัวเล็กมาก สูงเพียง 3 ฟุต 6 นิ้ว และหนักเพียง 60 ปอนด์เท่านั้น จึงน่าจะพยายามปีนขึ้นไปสูง ๆ เพื่อหาที่หลบภัยในต้นไม้ยามค่ำคืน

เมื่อเทียบลูซี่กับลิงชิมแปนซีแล้ว เคปเพลแมน เชื่อว่าลูซี่น่าจะตกมาจากต้นไม้สูงเกินกว่า 40 ฟุต หล่นลงมาสู่พื้นด้วยความเร็วประมาณ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง


        และ เคปเพลแมน ก็เชื่อว่าลูซี่เป็นทั้งมนุษย์เดินดินและมนุษย์บนต้นไม้ มีความสามารถที่จะอยู่ทั้งบนพื้นดินและปีนต้นไม้และงานวิจัยในอนาคตน่าจะบอกเรื่องราวของป้าลูซี่ได้มากขึ้น รวมถึงมนุษย์สมัยก่อนว่ามีชีวิตอยู่และเสียชีวิตอย่างไร   http://www.vcharkarn.com/vnews/505604

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้